Title
:: Just Love -First-
Mingyu
X Wonwoo [SEVENTEEN]
Genres
:: Comedy and Lovely (?)
Rate
:: PG-13
By
:: @lx_toey03
Note:: -ฟิคเรื่องนี้มีคำหยาบ
-นอกจากจะหยาบคายแล้วยังไร้สาระถึงที่สุด
-มันก๊ามมมม -ค่อยๆอ่านนะคะ -รักค่ะ-
-เรื่องที่แต่งขึ้นเป็นเพียงจินตนาการของผู้เขียนนะคะ-
ก็แค่ ‘รัก’
ครืด ครืด
เสียงโทรศัพท์เครื่องหรูที่สั่นในยามเช้า
เจ้าของเครื่องที่ยังคงนอนหลับอยู่ในห้วงแห่งความฝันไม่ได้แม้แต่จะสนใจใยดีมันเลย
ซึ่งเจ้าตัวก็คงจะทนไม่ไหวกับเสียงที่มารบกวนความฝันแสนหวานจึงลุกขึ้นมานั่งผิงพนักเตียงแล้วหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเปิดดูสิ่งที่รบกวนใจของเขาแต่เช้า
Mingming..
มินๆ เดี๋ยวเราโทรไปหานะ 8.26
Mingyu Kim
Read : 8.28 จะโทรมาทำไมจะนอน
Baby
it’s alright. I’ll call you mine ♪
ประโยคก่อนหน้าในไลน์ดูเหมือนว่าจะไม่มีความหมายแต่อย่างใด เมื่อรอไม่ถึงนาที
ก็มีสายเรียกเข้าจากเพื่อนสนิทที่ไม่รู้ว่ามีเรื่องอะไรถึงได้โทรมาหาเขาเช้าขนาดนี้
“อืม..บอกว่าไม่ต้องโทรมาไง”
(ก็ซูนยองบอกให้เราโทรอะ)
“ขอคุยกับไอ้ซูนหน่อย”
(แปปนะ/ฮายย มายเบสเฟรนด์)
“มีห่าอะไร”
(นี้คือคำทักทายของเพื่อนสนิทหรอ? คลใจร้าย)
“เข้าเรื่องเถอะ ถ้ามันไม่สำคัญกูจะตามไปเผาบ้านมึง”
(แหม่ โหดเหมือนเดิมเลยนะ อะๆ
ก็ไม่มีอะไรมากแต่มีเยอะมากแค่มาหากูที่โรงเรียนหน่อย)
“ทำไมกูต้องไป? ขอเหตุผล”
(เหตุผลไม่มีอะไรมาก มึงแค่ต้องมาเพราะทุกคนมากันหมดแล้ว)
“เออๆ เจอกัน”
(ต้องอย่างงี้เพื่อนรัก)
ติ้ด..
โอยย มีเรื่องหามาให้แต่เช้าเลย
อุตสาห์จะนอนอืดอยู่บ้านเฉยๆไอ้เพื่อนตัวดีดันมาบอกให้ไปหาที่โรงเรียน เห้อ
@
Pxx School
เขาที่ตอนนี้ถึงหน้าโรงเรียนแล้ว
แต่ด้วยความที่มันเป็นช่วงปิดภาคเรียนจึงทำให้ไม่ค่อยมีคนเยอะนัก
เขาใส่ชุดลำลองสบายๆเสื้อยืดสีขาวที่ตรงกลางมีตัวอักษรว่า Mingyu มันเป็นเสื้อที่กลุ่มของเขาสั่งทำขึ้นมาพิเศษ
เสื้อยืดสีขาวที่ถูกทับด้วยเสื้อโค้ดหนังสีดำ กางเกงยีนส์รัดรูปตัวเก่งสีดำขาดๆตามแฟชั่นร้องเท้าผ้าใบยี่ห้อดังสีขาวบวกกับรูปร่างดูดีของร่างที่สูงถึงร้อยแปดสิบกว่าๆคงไม่ต้องพูดถึงเรื่องหน้าตา
การที่เขาเดินไปมาแล้วผู้คนต่างๆถึงกับได้เหลียวหลังหันมามองมันคงเป็นเครื่องที่ช่วยยืนยันได้แล้วว่าเขาน่ะฮอตขนาดไหน
ร่างสูงได้ย้ายตัวเองลงมาจากยานพาหนะเครื่องยนต์สองล้อยี่ห้อแพง
ตรงดิ่งเข้าไปในโรงเรียนทันที ภายในโรงเรียนก็มีผู้คนอยุ่ประปราย
เนื่องจากมาแก้ผลสอบหรือเรียนปรับพื้นฐานสำหรับภาคเรียนที่จะเปิดขึ้น
เขาเดินไปยังจุดหมายปลายทางคือสนามกีฬาที่อยู่ด้านหลังโรงเรียน แต่ก่อนจะถึงเขาก็ต้องผ่านสวนพฤษศาสตร์ก่อน
แล้วก็โรงอาหารเล็ก
นักเรียนที่หนังอยู่ภายในโรงอาหารก็ละความสนใจจากงานที่กองอยู่ตรงหน้ามาให้เขาแทน
มันก็แน่อยู่แล้ว เขาน่ะ คือคิม มินกยู นักเรียนฮอตแห่งโรงเรียน 4 ปีซ้อน
หญิงสาวหรือเล่าชาย(ไม่แท้) ก็ต่างมารุมเขาขอถ่ายรูปกันทั้งนั้น
ในโรงเรียนน่ะมีแต่คนที่อยากสนิทกับเขาทั้งนั้นแหละ อ้อ มีอยู่คนนึงแหละที่ไม่อยาก
หึ
“เอ่อ..ทุกๆคนครับ พอดีผมนัดเพื่อนไว้น่ะครับ แล้วมันก็สายมากแล้วด้วย
ผมขอตัวก่อนได้มั้ยครับ”
“ว๊ายย/ได้ค่ะ/น้องมินกยูหล่อมากเลย/เชิญค่ะ” เมื่อกลุ่มคนที่เหลือแหวกทางให้เขาได้เดินไปเขาก็รีบวิ่งออกมาจากตรงนั้นไม่ใช่ว่าไม่ชอบคนพวกนั้นนะ
แต่บางทีมันก็..เยอะเกินไป เขาที่รีบวิ่งทำให้ไม่ได้มองทางจึงทำให้เขาไปชนกับคนนึงที่กำลังเดินมาทางนี้
เขาช่วยพยุงอีกคนขึ้นมาทำให้ได้เห็นหน้าชัดๆ
เขากระตุกยิ้มเล็กน้อยก่อนจะเอ่ยประโยคขอโทษที่จะดูกวนประสาทมากกว่าให้อีกคน
“ขอโทษนะครับที่ผมไม่ได้ดูทาง พอดีใจของผมมันวิ่งหาพี่อะครับ จอน
วอนอู”
“ตอแหล” พี่เขาตอบผมเสียงเบาก่อนที่จะสะบัดแขนแล้วเดินออกไป
เขาที่กำลังจะเดินต่อกลับชะงักเมื่อได้ยินเสียงที่ดังมาจากข้างหลัง
“นี่แกกล้าดียังไงเดินชนน้องมินกยูห้ะ/ขอโทษน้องเขาหรือยังน่ะ/เป็นรุ่นพี่ทำไมเดินไม่ดูทางเลยละ/ถ้าพี่มินกยูเจ็บฉันเอาเรื่องรุ่นพี่แน่”
เสียงที่โวกเวกโวยวายข้างหลังมาจากกลุ่มแฟนคลับของเขาที่ไม่พอใจกับเหตุการณ์เมื่อสักครู่
เขากำลังตัดสินใจว่าจะเดินเข้าไปห้ามหรือว่าปล่อยให้รุ่นพี่เขาแก้ไขเอาเอง
แต่เหตุการณ์ต่อมากลับทำให้เขารีบตรงดิ่งไปยังรุ่นพี่แบบแทบไม่ต้องคิดเลย
“ต้องทำถึงขนาดนี้มั้ยครับ”
เขาที่เดินไปยังกลุ่มนั้นแล้วพูดออกมาทำให้ทุกคนตกใจและแตกกลุ่มเพราะคงคิดว่าเขาไม่เห็นใช่มั้ยเลยทำแบบนี้
นี่แค่คนกลุ่มน้อยนะ ถ้ามากกว่านี้เขาไม่ปล่อยหรอก
“เอ่อ..มินกยู คะ..คือ เราไม่ได้ตั้งใจนะ”
คนที่เป็นคนลงมือทำเอ่ยเสียงสั่น
“ไม่ได้ตั้งใจ? กล้าพูดได้ไง ก็เห็นอยู่กับตาว่าเป็นคนทำ” เขาตอบกลับ
“คือ..เอ่อ..”
อีกคนที่ไม่รู้จะเถียงอะไรหันไปสะกิดคนข้างๆให้ช่วยแก้ตัวแทนให้หน่อยแต่เขากลับพูดแทรกขึ้นมาซะก่อน
“ไม่ต้องเอาเรื่องมาแถหรอก ทำไมต้องทำขนาดนี้
แค่เดินชนกันถึงขนาดต้องเอาน้ำหวานเหนียวๆราดเลยหรอ?” เขาถามอีกคน
“คือ..ไม่ใช่แบบนั้-..”
“แล้วมันแบบไหน!! บอกมาสิ ก็เห็นอยู่กับตาอะ!! มันเกินไปปะ
ตอบ!!!” เขาตะคอกกลับอีกคนจนตัวสั่น
“...”
“คราวหลังไม่ต้องทำแบบนี้ก็ได้ รู้ว่าเป็นห่วงแต่มันก็เกินไป
จะทำอะไรหัดคิดสักหน่อยว่ามันสมเหตุสมผลหรือเปล่าที่จะทำมันน่ะ
แล้วอีกอย่างผมเป็นคนเดินชนรุ่นพี่เขาเอง พี่เขาไม่เกี่ยว
ผมจะพูดเป็นครั้งสุดท้ายนะ ถึงมันจะดูใจร้ายไปหน่อย แต่ก็อยากบอกว่า
จะทำอะไรก็ให้มันอยู่ในที่ของพวกคุณ
ถ้าคุณเป็นแฟนคลับผมตั้งแต่แรกคุณจะรู้ดีว่าผมก็มีกฎให้แฟนคลับเหมือนกัน
ดังนั้นอย่าให้มันเกิดเหตุการณ์แบบนี้เป็นครั้งที่สองอีก
ไม่งั้นผมจะไม่ไว้หน้าพวกคุณแน่!!!” เขาพูดประโยคยาวเหยียดเพื่อให้ทุกคนเข้าใจ
เขาไม่สนหรอกว่าจะเป็นแฟนคลับหรือไม่ เพียงแต่ว่าต้องการจะบอกเพื่อที่จะได้ไม่เกิดเหตุการณ์แบบนี้อีก
“ปะ..ลุกครับ” เขาก้มลงไปพยุ่งอีกคนให้ลุกขึ้นมาจากพื้น
ตามตัวมีคราบน้ำหวานสีแดงเหนียวเหนอะหนะ เห็นแล้วยิ่งโมโห
เล่นกับใครไม่เล่นเล่นกับมินกยู แล้วทำกับคนที่เขาสนใจอยู่ด้วย ถ้าไม่ติดว่าเป็นผู้หญิงต่อยปากแตกไปแล้วนั้น
เขาพาอีกคนมายังห้องของนักกีฬาเพราะว่าในล็อกเกอร์ของเขาคงยังมีชุดสำรองอยู่แล้วก็มีห้องอาบน้ำด้วย
“อ่ะ..นี้ครับ ห้องอาบน้ำเดินตรงไปแล้วเลี้ยวขวาใช้ห้องสุดท้ายนะ”
“ทำไมต้องห้องสุดท้ายอะ?”
“เหอะหน่า..เอะ หรือว่าจะให้ผมอาบให้”
“ไม่ต้อง!! อย่าเข้ามานะไอ้บ้า” หึ โคตรน่ารักเลย
ส่วนเหตุผลที่เขาไม่อยากให้ใช้ห้องอื่นเพราะห้องสุดท้ายมันเป็นห้องของเขาดดยเฉนพาะเพราะเขาไม่อยากใช้รวมกับคนอื่น
ดังนั้นมันก็เลยดูดีกว่าและสะอาดกว่า
แต่ไม่ได้เข้าไปใช้เป็นเดือนละไม่รู้ว่าจะมีอะไรอยู่หรือเปล่า..
“อ๊ากกกกกก!!!!!”
“เห้ย พี่เป็นไรเปล่า”
“มินกะ..กยู มันมีแมลงสะ..สาบ ฮื่ออ”
อีกคนร้องเสียงหลงเมื่อเจอสัตว์ที่เกลียดนักเกลียดหนา
“โอ๋ๆ มันไปแล้วครับมันไปแล้ว ไม่เป็นไรเนอะ”
“ฮื่ออ มินกยูพี่กลัว อึก..”
น้ำตาสีใสค่อยๆไหลลงมาจากดวงตามนคนตัวเล็กที่เกิดอาการตกใจกลัวจากเหตุการณ์เมื่อกี้ทำให้ไม่ได้สังเกตเลยว่าตนกำลังเปลือยเปล่าอยู่
คนตัวสูงที่มัวแต่จมอยู่กับความฟินที่ได้กอดอีกคนก็เพิ่งรู้สึกตัวเนื่องจากรู้สึกว่าเหมือนมีอะไรบางอย่างดันอยู่แถวๆช่วงโคนขา
คนตัวเล็กที่เรียกสติกลับมาได้ก็อายจนหน้าแดงแจ๋ผลักคนตัวสูงออกแล้วหยิบผ้าเช็ดตัวพื้นขาวมาปกปิดร่างกายส่วนล่าง
“ไอ้บ้า อะ..ไอ้คนโรคจิต ไอ้หื่นกามเอ้ยย”
คนตัวเล็กด่าทออีกคนเนื่องจากความอาย
ด่าไปไม่ยอมเงยหน้าขึ้นมามองแม้จะแกแดใบหน้าที่แดงเหมือนมะเขือเทศ
แต่กลับไม่รู้เลยว่าตอนนี้มันลามมายันใบหูทั้งสองข้างแล้ว
ถ้าคนตัวเล็กเงยหน้าขึ้นมามองสักนิดจะเห็นสายตาตลกขำปนเอ็นดูของคนตรงหน้า
“อะไรของพี่ครับ พี่เป็นคนเข้ามากอดผมเองนะ จะมาว่าผมได้ไง”
เขาหัวเราะเล็กๆกับท่าทางเขินอายนั้น
“อะ..เออ!!! ก็ขอโทษได้ปะละ มันตกใจอะ”
“ฮะๆ ครับๆ เสื้อผ้าวางอยู่ข้างนอกนะ” พูดจบร่างสูงก็เดินออกมา
“นี่..มันไม่ใหญ่ไปหรอ”
คนเป็นพี่เอ่ยถามเพราะว่าเสื้อผ้าที่อีกคนเตรียมให้มันไม่ใช่ของตัวเอง
แล้วเนื่องจากขนาดตัวที่ต่างกันทำให้ขนาดของเสื้อผ้าก็ต่างกันด้วย
ชุดที่อีกคนให้มาเปลี่ยนเป็นเสื้อยืดสีดำตัวโคร่งที่เขาใส่แล้วสามารถคลุมกางเกงขาสั้นสีเทาไว้ได้เลย
โชคดีที่เขายังมีหมวกสแนปแบ็คของตัวเองอยู่มันเลยทำให้เขาดูดีขึ้นมานิดนึง คิดดูสิ
ขนาดร้องเท้าที่ใส่มาวันนี้มันยังเปียกชุ่มไปด้วยน้ำหวานสีสด
ร้องเท้าที่อีกคนให้มามันก็ใหญ่เกินกว่าที่เขาจะใส่ได้
“ก็โอเคนะ น่ารักดีออก ส่วนร้องเท้าใส่ได้หรือเปล่า”
“คำว่าดีออกนี่นายคงไม่ได้ด่าพี่ใช่มั้ย? ร้องเท้ามันใหญ่ไปอะ”
ให้ตายสิใครมันบัญญัติคำว่าดีออกให้กลายเป็นอีด-อ-ก กันนะ
“ไม่ได้ด่าสักหน่อย งั้นร้องเท้าเดี๋ยวผมไปยืมไอ้ซูนให้แล้วกัน”
เดี๋ยวนะ..พูดถึงซูนแล้วผมลืมอะไรไปหรือเปล่า
มันโทรมาตอนแปดโมงครึ่งให้เขารีบมาโรงเรียน
มาถึงตอนเก้าโมงนิดๆ
แล้วตอนนี้เก้าโมงสี่สิบเจ็ดนาที..
ชิบหาย!!!!!
“เฮ้ยพี่ ผมลืมไปว่านัดกับไอ้ซูนไว้อะ”
“ก็ไปดิ”
“แล้วพี่อะ?”
“ฉัน? ทำไม?”
“อยู่คนเดียวได้หรอ?”
“เอ้า นี่โตแล้วนะอยู่ได้อยู่แล้ว อีกอย่างฉันไปไหนไม่ได้ด้วยไม่มีรองเท้า
นายรีบไปหาซูนยองแล้วไปเอากุญแจล็อกเกอร์มาไขให้ฉันดีกว่า
“งั้นรอผมก่อนนะ ห้ามไปไหนนะพี่”
“เออ ไปเลยไปเร็วๆ” พอคนเป็นพี่พูดจบเขาก็รีบวิ่งออกมาแล้วตรงดิ่งไปยังสนามกีฬาทันที
ตอนนี้เขาไม่สนใจอะไรทั้งนั้น รู้สึกว่าเมื่อกี้จะเหยียบหางเต้าหู้ด้วย
ขอโทษนะลูก..
“แฮ่กๆ มึง..โทษที แฮ่ก” เขาวิ่งมายังจุดที่เห็นซูนยอง
หมิงฮ่าวและโดคยอมอยู่
“แหม่ ไม่มาพรุ่งนี้เลยละมึง นี่แอบไปอยู่กับสาวมาใช้มั้ยตอบ”
ไอ้ซูนยองที่เหน็บแหนมเขา
“สาวห่าไร อยู่กับพี่วอนอู” เขาตอบกลับ
“เหยดดดด เดี๋ยวนี้ใจกล้าขนาดนี้แล้วหรอเพิ่ล” โถ่
ไอ้โดคยอมที่เอ่ยปากพูดออกมามันทำให้มินกยูเสียภาพพจน์หมดเลย เขาไม่ได้กากนะ!!
“โดคยอมทำไมพูดแบบนั้นละ ปกติมินกยูก็ไม่ได้กากขนาดนั้นนะ” นี้ไง
ยังมีหมิงฮ่าวคนน่ารักอยู่ข้างเขา
“แล้วปกติมันเป็นคนยังไงอะ” ไอ้โดคยอมถามกลับ
“ก็เป็นคนกากมาก กากยิ่งกว่าพืชผักผลไม้อีก”
พอหมิงฮ่าวพูดจบไอ้สองตัวก็ระเบิดหัวเราะกันออกมาเลยทีเดียว ถุ้ย!
กูขอถอนคำพูดเมื่อกี้!
“เออๆ เลือกเ
สือกเรื่องของกูแล้วบอกกูดีกว่าวว่าที่เรียกมานี้มีเรื่องอะไร”
เขาถามไอ้ซูนยองตัวดีที่เรียกเขามาในวันนี้
“ก็ไม่มีอะไรมากหรอก อิอิ” อิอะไร คิดว่ามุ้งมิ้งมาหรอมึง
“หรอ อุอุ” มีลูกรับด้วยเอ้า
“รีบบอกมาเถอะ เราลุ้นจะตายอยู่แล้ว คริคริ” นั้นน้องฮ่าวเขาก็เล่นไปกับด้วย
“กูไม่เล่น เร็วๆพี่วอนอูรออยู่” เขากำลังหงุดหงิด
“แหม่เล่นนิดเล่นหน่อยก็ไม่ได้เนอะ” ไอ้ซูนยองมันบ่นก่อนที่จะเริ่มเข้าเรื่อง
“ก็แค่จะเรียกมาถามว่า...กูจะจีบพี่อูจียังไงดี”
“...”
“...”
“...”
กา กา กา กา กา..
“โถ่ ไอ้เ หี้ย ถ้ามึงจะเรียกมาถามแค่นี้นะ” ไอ้โดคยอมโวยวาย
“เออ มึงก็แค่โทรศัพท์มาหรือไม่ก็เฟสทามมาก็ได้ปะวะแ ม่ง”
“นั้นสิ ถ้าเรื่องแค่นี้ซูนยองไม่น่าเรียกพวกเรามาเลยนะ
มันเสียเวลามาก รู้มั้ยว่าเราต้องเสียเวลาอ่านหนังสือไปอีกชั่วโมง
แล้วก็รบกวนการพักผ่อนอีกด้วย
ถ้าเรานอนน้อยเราก็จะไม่สบายแล้วเราก็จะอ่านหนังสือไม่รู้เรื่องแล้วม๊าก็จะด่าเรา
ซูนยองถึงจะไม่ได้เรียนเก่งแต่ก็ไม่ควรโง่ขนาดนี้นะ เราแค่เตือนไม่ได้ด่าหรอกนะ”
แหม่ ดูน้องฮ่าวเราพูด ไม่ได้ด่าเลยจริงๆ
“โถ่กูขอโทษ ก็กลัวว่าจะไม่ลุ้นไงก็เลยเรียกมา
แต่หมิงฮ่าวไม่เห็นต้องพูดขนาดนั้นเลย เสียจรั้ยย”
“ไม่รู้แหละ
เราโกรธมากและซูนยองต้องพาเราไปกินไอติมร้านลุงหวงเราถึงจะหาย”
“ใช่ๆ แล้วมึงก็ต้องพากูไปกินร้านหมูเด้งของน้องบูด้วย”
“แหม่ นิดๆหน่อยๆทำเป็นหาโอกาสเชียวนะมึง เออ เดี๋ยวเลี้ยง
แล้วมึงจะไปด้วยปะมิง”
“ไม่อะ จะไปหาพี่วอนอู” เขาพูดก่อนจะยักคิ้วกลับประมาณว่า ‘พี่เขาสำคัญว่าพวกมึงโว้ย’
“จ่ะๆ งั้นกูไปล-..”
“เห้ย ขอกุญแจล็อกเกอร์หน่อย”
“เอาไปทำไม?”
“พี่วอนอูเขาไม่มีร้องเท้าใส่ ร้องเท้าของมึงยังอยู่ใช่ปะ”
“เออๆ เก็บดีๆด้วยละ แ ม่งอะไรก็พี่วอนอูๆ หมั่นไส้” ซูนยองบ่นเบาๆ
“โชคดีมึง ขอให้จีบพี่อูจีติด”
“อยู่แล้วเพื่อนรัก” ว่าจบมันก็เดินตามอีกสองคนนั้นไป
ก็พอรู้อยู่ว่าปลื้มพี่เขามาตั้งแต่ม.ต้น แต่ก็ไม่เห็นจะจีบ บอกแค่ว่ามีความสุขดี
เขาก็ไม่เห็นว่าจะมีความสุขตรงไหน ตอนไหนที่มีข่าวว่าพี่เขาไปคบกับคนนู้นคนนี้
มันก็มานั่งร้องห่มร้องไห้ แล้วใคปลอบ ก็เขานี้ไง อย่าว่าแต่มันเลย
มินกยูหนุ่มสุดฮอตนี้แหละ
ขนาดที่ว่าฮอตยังมาติดกับรุ่นพี่ซึนน่ารักที่มีนิสัยเหมือนแมวเลย
จีบเขามาตั้งนานก็ยังไม่ได้หัวใจเขามาครองสักที
ถ้าถามว่าเหนื่อยมั้ยบอกได้เลยว่ามาก แต่แค่นี้มินกยูไม่ถอยหรอกนะ
ตราบใดที่พี่เขายังไม่มีแฟนน่ะ
หลังจากที่อำลากับผองเพื่อนเสร็จเขาก็รีบตรงมาหาพี่วอนอูเลย
ก็ไม่อยากให้พี่แมวรอนานอะ เดี๋ยวจะเฉาตายเพราะขาดความรักของเขา อร้ายย
“พี่วอน-..”
ทันทีที่เขาเข้ามาถึงก็ตั้งใจจะเรียกรุ่นพี่อีกคนแต่ดันมาเจอคนตัวเล็กนอนคดตัวเป็นกุ้งหลับอยู่บนเก้าอี้ในห้อง
จอนวอนอูนี่มันน่ารักจริงๆนะ มองยังไงก็น่ารักจริงๆนะ ดูขนาดท่านอนสิยังน่ารัก
ใบหน้าดื้อรั้นเอาแต่ใจแล้วก็คอยเหวี่ยงเขาทุกครั้งที่เจอกันน่ะ
พอมามองในมุมนิ่งๆแบบนี้มันก็ดูน่ารักไม่น้อยเลยละ ผิวขาวๆที่อยากสัมผัส
ดวงตาในยามหลับทำให้เห็นขนตาสีดำยาวเป็นแพที่เรียงกันเป็นเส้นๆ จมูกรั้นๆที่ต้องปลายจมูกแดงนิดๆเพราะอุณหภูมิภายในห้องมันน่ากัดจริงๆเลย
แก้มขาวใสน่าฟัด ปากเล็กกระจับสีชมพูธรรมาชาติน่ามอบสัมผัส
เขาอยากจะรู้เหลือเกินว่าข้างในโพรงปากเล็กๆนั้นจะหวานขนาดไหน
ถ้าเขาลักหลับหน่อยมันจะเป็นอะไรหรือเปล่า?
ไม่รอช้าเขามอบสัมผัสอันหอมหวานให้กับนตัวเล็กอย่างนุ่มนวล
กดจูบลงไปแผ่วเบาเพื่อไม่อีกคนตื่น กดแน่นย้ำเข้าไปเพื่อย้ำเตือนสัมผัส
ค่อยๆขบเม้มกลีบปากอีกคนเบาๆ
มือหยาบค่อยๆประคองหน้าอีกคนเอาไว้ใช้นิ้วเกลี่ยแก้มอีกคนเบา
ผละออกมาจากริมฝีปากอย่างอ้อยอิ่งราวกับเสียดาย ก่อนจะจุ้บแก้มคนตัวเล็กอีกครั้งแล้วกระซิบเบาๆที่ข้างหูเพื่อปลุกอีกคน
“พี่วอนอูครับ ตื่นได้แล้ว”
“ฮื่ออ” อีกคนขยับตัวเปลี่ยนท่าเล็กน้อยก่อนจะหลับต่อ
“ตื่นได้แล้วตัวเล็ก” เขาพูดขึ้นอีกครั้งข้างๆหู
“อื้ออ..จะนอน”
มือเล็กปัดป่ายไปทั่วราวกับรำคาญสิ่งที่ขัดการนอนของตัวเอง
“ถ้าไม่ตื่นผมจะจูบแล้วนะครับ☺”
พูดจบอีกคนก็สะดุ้งตื่นก่อนจะยกขาถีบเขาให้ล้มลง
สีหน้าแตกตื่นเหมือนกระต่ายตื่นตูมทำให้เขาตลกจะเกือบกลั้นขำไม่อยู่
“อะ..ไอ้บ้า โรคจิต จูบเจิบอะไร”
อีกคนเลิกลักก่อนจะนึกได้ว่าตนถูกแกล้วสีหน้าและใบหูเปลี่ยนเป็นสีเดียวกันอีกครั้ง
“อยากลองมั้ยละครับ ใครๆก็บอกว่าจูบผมอะหวานนะ”
“งั้นก็ไปจูบกับพวกผู้หญิงของนายสิ ไม่ต้องมายุ่งกับฉัน”
อีกคนพูดหน้ามุ้ย
“ทำไม? หึงหรอ?” เขาถามก่อนจะยื่นหน้าเขาไปใกล้
อีกคนจากหน้าที่แดงอยู่แล้วกลับแดงขึ้นอีก
“หึงบ้าหึงบออะไร เลิกเพ้อเจ้อ ไหนรองเท้าละ?” อีกคนชวนเปลี่ยนเรื่อง
“หึ อะนี่” เขายื่นร้องเท้าของซูนยองที่เล็กกว่าเขาให้คนเป็นพี่
“ขอบใจ” คนเป็นพี่ใส่เสร็จแล้วก็กำลังจะลุกเดินออกไป
แต่เขาคว้าข้อมือบางเอาไว้ก่อน
“มีอะไร?”
“ไปกินข้าวกัน” เขาชวนอีกคน
“กินข้าว? สภาพแบบนี้อะนะ ขอกลับบ้านก่อนได้ปะ”
“ได้ เดี๋ยวผมไปส่ง ปะ”
ว่าจบเขาก็จับมือแล้วพาอีกคนมาที่รถมอตเอร์ไซต์คันงามของเขาทันที
“เห้ย ไม่เอา พี่ไม่ชอบนั่งมอไซต์ฯอ่ะ” อีกคนว่า
“ขึ้นมาเร็วๆ ใส่หมวกันน็อคด้วย”
เขาพูดอย่างไม่สนใจประโยคก่อนหน้าที่คนตัวเล็กพูด
“ไม่เอา มินก-เห้ย!!!” อีกคนที่เอาแต่ปฏิเสธการชักชวนของเขา
ทำให้เขาลงจากรถก่อนจะอุ้มอีกคนให้นั่งคร่อมมอไซต์ฯของตนแล้วเขาก็ขึ้นตามมา
อีกคนที่ยังของตะลึงอยู่ เขาก็หันไปใส่หวกกันน็อคให้อีกคนแล้วก็สตาร์ทรถเตรียมออก
“ถ้าพี่กลัวตกก็กอดผมไว้ก็ได้ ไม่ถือ”
เขาพูดแล้วก็จับมือทั้งสองข้างของคนด้านหลังมากอดเอวของเขาไว้ทันที
จะมีใครรู้บ้างมั้ยนะว่าภายใต้หมวกนิรภัยนั้นของมินกยูน่ะ
เขายิ้มจนปวดกามไปหมดแล้ว ทำไมถึงน่ารักขนาดนี้นะจอนวอนอู คนข้างหลังที่เหมือนจะได้สติกลับมาแล้วก็เอาหัวพิงเขากับแผ่นหลังของคนข้างหน้า
จะว่าอายก็อายดูสิมีผู้คนตั้งเยอะตั้งแยะแค่มินกยูก็เป็นจุดเด่นจะแย่อยู่แล้วนี่ยังมาแมเขาซ้อนมอไซต์ฯอีก
เขาได้ยินนะว่านักเรียนหญิงแถวนั้นน่ะแอบกรี๊ดแล้วก็ถ่ายรูปเอาไว้ด้วย
หลายคนแถวนั้นก็ให้ความสนใจกับพวกเขา
คิดดูสิว่าเด็กผู้ชายวัยกำลังโตแบบพวกเขาสองคนมานั่งซ้อนมอไซต์ฯกันมันก็แปลกพิลึก
แต่ถ้าให้พูด เขาเขินกว่าอีก คิดดูสิ
อีกคนทั้งอุ้มเขาก่อนจะใส่หมวกนิรภัยให้แล้วยังมาพูดอีกว่า
งถ้าพี่กลัวตกก็กอดผมไว้ได้นะ’ แล้วยังมาจับมือเขาไปกอดไว้อีก นี้มันแบ็คฮักชัดๆ
ฮื่ออ ออมม่า วอนูเขิน
และแล้วพวกเขาทั้งสองคนก็มาถึงที่บ้านอย่างปลอดภัย
ไม่ต้องถามว่าทำไมมินกยูถึงรู้ที่อยู่บ้านเขา ก็หมอนี่มันตามจีบเขามาตั้งหลายปี
ไปรับ-ส่งเขาเกือบทุกวันจนตอนนี้ออมม่าเขารักมันมากกว่าเขาอีกมั้งน่ะ
เขาไขกุญแจบ้านเข้ามาก่อนจะเปิดไฟแล้ววิ่งขึ้นไปยังห้องนอนทันที
เวลานี้ไม่มีใครอยู่บ้านหรอก นอกจากน้องกระต่าย แต่ว่ามันไม่ใช่กระต่ายหรอก
มันเป็นแมว แต่ว่าทำไมถึงตั้งชื่อกระต่ายน่ะหรอ
ก็เพราะว่าหางมันกุดเหมือนกระต่ายไงแถมยังมีขนปุยสีขาวอีก มันนุ่มมากๆเลยละ
แต่มินกยูบอกว่ามันเหมือนเขาเลย ไม่ใช่สักหน่อย เขาไม่ได้เป็นแมวนะ!!!
“มินกยูเอานมขึ้นมาให้พี่ด้วยนะ อ้อเก็บของที่กระต่ายเล่นด้วยนะ”
เสียงของคนเป็นพี่ตะโกนลงมาจากด้านบน เขาส่ายหน้าเหนื่อยๆ
ก็เป็นแบบนี้ทุกทีใช้ให้เขาทำนู้นทำนี้อยู่เรื่อยแต่ก็ชินแล้วละ จะให้พูดยังไงดี
เพราะรักถึงทำมันก็คงจะดูหล่อไป เอาเป็นว่าทำตัวเป็นสามี(ในอนาคต)ที่ดีละกัน อิอิ
“ครับๆรู้แล้วครับ” เขารีบเก็บของที่เจ้ากระต่ายเล่นเต็มบ้านแล้วเทนมใส่แก้วก่อนจะยกขึ้นไปให้คนตัวเล็กบนห้อง
“พี่ลุกขึ้นมาดีๆดิ”
เมื่อเขาเข้ามาในห้องก็เจอคนตัวเล็กที่นอนแผ่อยู่บนเตียง
เขารีบเรียกอีกคนเพราะกลัววาคนตัวเล้กจะผล็อยหลับไปอีกรอบ
“อื้อ..มินกยู” เชี่ย..น่ารักเ หี้ยๆ
ลองนึกภาพตามนะครับ
ผู้ชายที่ไม่ได้ตัวเล็กมากแต่มีความมุ้งมิ้งในตัว
กำลังนั่งพิงหัวเตียงยืดขาเชิดหน้าแล้วมองเขาด้วยสายตาอ่อยๆ
เสื้อยืดตัวโคร่งของเขาตกไหล่ลงมาทำให้เผยเห็นไหล่ขาวๆน่าทำรอย
มือเล็กๆที่ยกขึ้นมาขยี้ตาทำให้เพิ่มความโมเอะในตัวไปอีก โอ้ยย ไหนจะปากแดงๆน่าจูบนั้นอีก
ให้ตายเถอะ มินกยูจะไม่ทน!!!
“เอ่อ..พะ..พี่
เอ่อ..” ติดอ่างซะงั้นกู..
“ขอนอนก่อนได้ปะ แล้วบ่ายๆค่อยไปเที่ยวกัน” คนตัวเล็กอ้อนวอนขอเขา
จะไม่ให้ก็กลัวว่าจะใจร้ายไป พูดไปหาวไป ตาก็จะปิดอยู่แล้ว
“งั้นเที่ยงๆเดี๋ยวเราไปกินข้าวกันนะครับ”
“อื้อ ขอบคุณนะ”
จุ้บ!!
...
..
.
ไว้อาลัยให้มินกยูคิมด้วยครับ วันแรกขอเป็นบุฟเฟ่หมูกระทะนะ
อย่าลืมเอาไปให้เขากินด้วย ชาตินี้มินกยูตายตาหลับแล้ว พี่แมวหอมแก้มเขา!!!! อาเมน..
TBC
-------------------
ฮาย เจอกันอีกแล้วนะคะ เรื่องเก่ายังไม่เสร็จมาลงเรื่องใหม่ ขอโต้ด พยายามจะไม่ดองนะ ยังไงก็ฝากด้วย ยังไม่ได้แก้คำผิดนะคะ รักทุกนคนนะคะ ฝากฟิคด้วยงุ้ย รักคะ
สกรีมแท็ก → #จัสมินวอน
ทวิต → 璐贤